มจร. นำเทคโนโลยีการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารพิษจากโครงการวิจัยใช้จริง

ปัญหามลพิษนั้นดูจะคลืบคลานเข้ามาใกล้ชีวิตมนุษย์เราทุกที เหมือนความตายหยั่งไงก็อย่างนั้น …

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 จากรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศโลกปี พ.ศ. 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5)ในปี 2561 ที่กระจายตัวอย่างกว้างขวาง แต่ไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ กอร์ปกับประชาชนยังถูกจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล ในปี พ.ศ. 2561 ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 23 ของโลก ในฐานะประเทศที่มีความเข้มข้นเฉลี่ยรายปีของ PM2.5 มากที่สุด หากเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีค่าคุณภาพอากาศที่แย่เป็นอันดับ 3 รองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม มี 10 จังหวัดในไทยที่ติดอยู่ในการจัดอันดับ 15 เมืองที่มีมลพิษ PM2.5 สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดในโลกนี้ จัดทำขึ้นโดย IQAir AirVisual ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุไว้ว่า 9 ใน 10 คนทั่วโลกกําลังหายใจเอามลพิษทางอากาศเข้าสู่ร่างกาย เราทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองมลพิษล้วนเสี่ยงที่จะเป็นหนึ่งใน 9 คนนั้น ประเทศที่มีมลพิษทางอากาศเป็นอันดับหนึ่ง คือ บังคลาเทศ ขณะที่หากนับเป็นเมืองแล้ว เมืองเดลี ประเทศอินเดียอยู่อันดับหนึ่ง และกรุงเทพฯอยู่อันดับที่ 24

รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศโลก พ.ศ.2561

จากปัญหาดังกล่าว จึงเกิดการวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ศึกษาและค้นคว้าในโครงการวิจัย เรื่อง “เทคโนโลยีการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารพิษไดออกซินจากการเผาศพ” โดยใช้ “สารไกอา เอช” หรือ “สารวิมุตติ” มาทดลองใช้ในการเผาศพ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน เมษายน – ตุลาคม 2559 เพราะการฌาปนกิจ หรือ การเผาศพแต่ละครั้ง นอกจากร่างศพ ยังมีโลงศพ เสื้อผ้า ข้าวของหลายชิ้นที่ญาติใส่ลงไปในโลงตามความเชื่อของพิธีกรรมทางศาสนา ประกอบกับการเผาศพแต่ละครั้งมีเกณฑ์กำหนดให้ใช้ความร้อน 900 ถึง 1,000 องศาเซลเซียส จึงทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ขึ้น ส่งผลให้เกิดสารมลพิษหลายชนิดปะปนออกมาพร้อมกับควัน โดยเฉพาะสารที่เป็นอันตรายมากที่สุด คือสารไดออกซิน และสารฟิวแรน ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็ง มีผลกระทบต่อระบบประสาท ภูมิคุ้มกันและระบบสืบพันธุ์ โดยผลวิจัยยังพบอีกว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเผาศพที่ปล่อยสารไดออกซินในระยะรัศมี 5 กิโลเมตร คือ พระภิกษุ สามเณร สัปเหร่อ ประชาชน และโรงเรียนที่อยู่รอบบริเวณวัด

[envira-gallery id=”5456″]

วัดสุทธิวราราม นำร่องนำสารไกอา เอช มาใช้เป็นแห่งแรกโดยอัดแท่งเย็บติดกับผ้าห่ม บางส่วนบรรจุในดอกไม้จันทน์ และบรรจุในพวงหรีด ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยและดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่การใช้สารไกอา เอชในการเผาศพต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของญาติผู้เสียชีวิต เพราะสารชนิดนี้ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่นักวิจัยอยู่ระหว่างคิดค้น หาสารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันมาใช้ทดแทนได้

ในปัจจุบันความสนใจในเรื่องมลพิษทางอากาศ กับการพัฒนาเมืองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ หลายประเทศอย่างจีน และอินเดีย พยายามจะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้มากขึ้น เพราะเริ่มตระหนักแล้วว่าการพัฒนาเมือง หรือการปล่อยให้เกิดการะพัฒนาเมืองอย่างไร้มาตรฐาน และการวางแผนป้องกันปัญหา จะทำให้เกิดทั้งปัญหาสุขภาพกับประชาชนในเมือง และทำให้เกิดต้นทุนมหาศลในการพัฒนา

 

ที่มา Green Report : เผาศพ ลดควันพิษปะปนในอากาศ

Loading

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.